Showing posts with label ข่าวทั่วไทย. Show all posts
Showing posts with label ข่าวทั่วไทย. Show all posts

ตำรวจทำไมทำแบบนี้!! คลิปตำรวจต่อยประชาชน ห้ามไม่ฟัง

♠ Posted by Unknown in
ตำรวจทำไมทำแบบนี้!! คลิปตำรวจต่อยประชาชน ห้ามไม่ฟัง

มีการเผยแพร่คลิปวีดิโอ คลิปตำรวจต่อยประชาชน ที่ปรากฎ มีกลุ่มวัยรุ่นพยายามเอาเรื่อง ชายที่แต่งชุดคล้ายตำรวจ พร้อมตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ ตำรวจต่อยประชาชน และระบุว่าทำเกินกว่าเหตุ

ทั้งนี้ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ได้โพสต์คลิปพร้อมระบุว่า

ภาพจากคลิป

ผมได้ไปเที่ยวผับดังแห่งหนึ่ง ในจ.แม่ฮ่องสอน(บ้านเกิด) หลังจากพับเลิก มีวัยรุ่น 2 กลุ่ม มีเรื่องกัน แต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรง หลังจากนั้น ตำรวจก้อมาห้าม ตำรวจบอกให้แยกย้าย กลับบ้าน วัยรุ่นกลุ่มที่ไม่เห็นในคลิป ก้อแยกย้ายกลับบ้าน แต่กลุ่มวัยรุ่น(ที่เห็นในคลิป) ไม่ยอม ต้องการเอาความ
ตำรวจได้ไกล่เกลี่ย แต่ พูดกันไม่รู้เรื่อง มีตำรวจท่านหนึ่ง ได้ต่อยเข้าหน้าวัยรุ่นชายเสื้อฟ้า(ในคลิป) ถ่ายตอนต่อยไม่ทัน) จนวัยรุ่นคนนั้นลงไปนอนกับพื้น แล้วลุกขึ้น หลังจากนั้น ก้อตามคลิป มีตำรวจท่านหนึ่ง(คนที่ไม่ใส่หมวกในคลิปที­่ 3) ได้ใช้กำลังและอาวุธ กับวัยรุ่นอีกคน(ผู้หญิง) จึงทำให้เรื่องบานปลาย

ล่าสุด พ.ต.ท.พนัส สายทอง รอง ผกก.ป. สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน กำลังสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ที่มา: http://news.bugaboo.tv/watch/146628?link=2


วิญญาณ “น้องเฟิร์น” โผล่อยู่ตรงประตู

♠ Posted by Unknown in
ขนลุก ! วิญญาณ “น้องเฟิร์น” เหยื่อศัลยกรรมหน้าวีไลน์ โผล่ในงานศพ

หลังจากผ่านพ้นงานศพของ น.ส.เมทยา มาวงค์ อายุ 30 ปี หรือน้องเฟิร์น พริตตี้สาวสวยที่ไปทำศัลยกรรมหน้าเรียวหรือ วีไลน์ ที่คลินิกแห่งหนึ่ง แต่เกิดอาการแพ้ยาสลบหรือ Malignant Hyperthermia จนเสียชีวิต และได้ฌาปนกิจศพในอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ไปกว่าสัปดาห์แล้วนั้น
ล่าสุดเพื่อนๆ ของ น.ส.เมทยา หรือน้องเฟิร์น ได้นำภาพถ่ายในงานศพมาดูแล้วพบว่าเกิดเรื่องสุดสะพรึงแบบขนลุกขนชัน เพราะในรูปของเพื่อนบางคนที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือได้ปรากฏรูปน้องเฟริ์นขึ้นอย่างชัดเจน  โดยเรื่องนี้ได้รับคำยืนยันจากเพื่อนสนิทของเฟิร์นว่าในภาพคือ เฟิร์นจริงๆ

บางคนก็ระบุว่าในภาพน้องเฟิร์นอยู่ตรงประตู เห็นชัดเลย ดูแล้วขนลุก  น้องเฟริ์นคงดีใจที่เพื่อนๆ มางานศพกันเยอะอยากถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ก่อนจะจากกันไปครั้งสุดท้าย
ที่มา:board.postjung

ฟ้าผ่าโทรศัพท์ดับทันที่

♠ Posted by Unknown in

ฟ้าผ่าดับสยอง! หนุ่มคุยมือถือ-จอโทรศัพท์ไหม้


วันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ศรีสัชนาลัย สุโขทัย และได้เกิดฟ้าผ่าร่าง นายมงคล ดิบทิพย์ ในขณะที่กำลังเดินหลบฝนเข้าที่พักและพกโทรศัพท์มือถือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง และเป็นจังหวะที่มีคนโทรเข้ามาหาพอดี จึงทำให้ถูกฟ้าผ่า จนหน้าจอโทรศัพท์ไหม้เป็นสีดำ และ นายมงคลได้เสียชีวิตทันที่ ในสวนส้ม หมู่ที่ 19 บ้านห้วยเดื่อ ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย โดยญาติได้นำศพไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดเลขที่ 18 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่

ทั้งนี้ ในระหว่างที่เกิดฝนตกได้มีลมกระโชกแรงและมีลมพายุพัดต้นไม้หักโค่นโดยเฉพาะต้นมะขามที่อายุกว่า100 ปี ล้มโค่น สร้างความเสียดายให้คนในหมู่ที่ 23 บ้านวังทอง ต.แม่สิน อย่างมาก เนื่องจากสัญลักษณ์ประจำหมู่บ้าน คือ ต้นมะขามอายุกว่า 100 ปี และในครั้งนี้แรงลมยังได้พัดหลังคาบ้านของประชาชนปลิวหายบางส่วนเกือบ 10 หลัง และในหมู่ที่ 4, 6 และ หมู่ที่ 11 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับหมู่ที่ 23 บ้านวังทอง ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย สุโขทัย ก็ได้ถูกแรงลมพัดหลังบ้านได้รับความเสียหายเกือบ 20 หลัง
ที่มา:news.sanook

เห็นแล้วอึ้งเมื่อ ทางเท้าเกาหลี ลายคล้ายธงชาติไทย

♠ Posted by Unknown in


คลิป ทางเท้าเกาหลี ลายคล้ายธงชาติไทย



ทางเท้าเกาหลี ลายคล้ายธงชาติไทย
         คลิป ทางเท้าเกาหลีที่เพิ่งทำเสร็จ ลายคล้ายธงชาติไทย โดยมีการเว้นช่วงของอิฐ เป็นสีแดง 1 ก้อน และน้ำเงิน 2 ก้อน ชาวเน็ตวิจารณ์เพียบ
         เป็นประเด็นให้วิพากษ์วิจารณ์อีกแล้ว สำหรับคลิปของ คุณ Areeya Nin ที่โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปนั้นได้บันทึกภาพของทางเท้าของเกาหลี ที่มีสีแดง สีน้ำเงิน และเว้นช่วงของอิฐคล้ายกับลายธงชาติไทยบ้านเรา โดยมีข้อความดังนี้..
         "ทางเดินเท้าที่เกาหลีเพิ่งทำเสร็จได้ประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ เล่นสีออกมาได้บังเอิญมาก ๆ ค่ะ ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรได้นะคะ ทางเท้าลายแบบนี้ทั้ง 2 ฝั่งถนนค่ะ"
         งานนี้หลายคนก็แสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บ้างก็บอกว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีตั้งใจทำลวดลายให้คล้ายกับธงชาติไทย บางรายถึงขั้นโพสต์ข้อความด่าทอ จนถึงขนาดให้งดเสพสื่อเกาหลีกันเลยทีเดียว ขณะที่บางคนก็ระบุว่า การเว้นช่วงของอิฐนั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่สีขาว แต่เป็นสีเทา ซึ่งถ้ามองผ่าน ๆ อาจจะคล้ายกับสีธงชาติไทยเท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจให้คล้ายธงชาติไทยแต่อย่างใด
ที่มา:hilight.kapook

พระร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยนำช้างป่าไปไว้ที่อื่นหลัง ‘พลายงาคู่หางกุด‘ บุกวัดเหยียบพระมรณภาพ

♠ Posted by Unknown in

‘พลายงาคู่หางกุด‘ บุกวัด! อาละวาดกระทืบพระมรณภาพ


(6 ต.ค.) เวลา 05.30 น. พระครูเมตตาวิสารัตน์ เจ้าอาวาสวัดเขาชะอม อ.เขาสมิง จ.ตราด แจ้งร.ต.ท.ประสิทธิ์ เลิศเธียร ร้อยเวร สภ.เขาสมิง ให้เข้ามาตรวจสอบชันสูตรศพ พระธนะพรประสิทธิ์ จรูญชุติปัญโญ อายุ 71 ปี หลังพบกลายเป็นศพมีร่องรอยถูกช้างกระทืบ มีบาดแผลที่ใบหน้าเละ แขนหัก ซี่โครงหัก มรณภาพอยู่โนต้นมะม่วงในลานวัดด้านหน้ากุฎิที่พักของพระธนะพรประสิทธิ์ โดยมีชาวบ้าน พระลูกวัด ชุดเฝ้าระวังช้างป่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้วและตชด.116 อ.บ่อไร่ ร่วมดูเหตุการณ์ด้วย

พระครูเมตตาวิสารัตน์ เจ้าอาวาสวัดเขาชะอมเล่าให้ฟังว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา มีช้างป่าชื่อว่า พลายงาคู่หางกุด เข้ามาหากินในวัด โดยกินยอดมะพร้าว ต้นกล้วย และพยายามเข้ารื้อค้นกุฏิพระเพื่อหาอาหาร ทำให้พระทุกรูปของวัดจำนวน 7 รูป พากันเข้าจำวัดในกุฏิ ไม่มีใครกล้าออกมาดูเหตุการณ์ แต่ประมาณเที่ยงคืนเศษ ได้ยินเสียงพระพระธนะพรประสิทธิ์ จรูญชุติปัญโญ ส่งเสียงตะโกนไล่ช้างเป็นระยะ แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะพระธนะพรประสิทธิ์ จะเป็นผู้ไล่ช้างป่าให้ออกจากวัดเป็นประจำ จนเวลา 05.30น. เช้าวันนี้ พระลูกวัดออกมาดูพระธนะพรประสิทธิ์ เพื่อจะไปสวดมนต์บ้านโยม กลับพบว่ามรณภาพไปแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่ามรณภาพนานกว่า 3-4 ชม. เพราะศพแข็งแล้ว

พระครูเมตตาวิสารัตน์ กล่าวอีกว่า วัดอยู่ใกล้ป่า ใกล้เขา มีช้างป่าลงมาหากินในวัดเป็นประจำ พระและชาวบ้านต้องคอยระวังตัวกันเอง จากเหตุที่ขึ้นครั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยนำช้างป่าไปไว้ที่อื่นให้ด้วย เพราทั้งพระและชาวบ้านต้องเสี่ยงภัย อยู่กันอย่างอันตรายมาตลอด ซึ่งพลายงาคู่หางกุดนี้เป็นช้างค่อนข้างดุร้าย เคยไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะออกผลักดันช้างป่าหลายครั้งแล้ว
ที่มา:news.sanook

หนุ่มพิเรนทร์แก้ผ้าวิ่งรอบเมือง อ้างรับลมแก้ร้อน

♠ Posted by Unknown in
หนุ่มพิเรนทร์แก้ผ้าวิ่งรอบเมือง อ้างรับลมแก้ร้อน

หนุ่มมหาสารคามพิเรนทร์ แก้ผ้าวิ่งรอบเมืองลำปาง อ้างรับลมแก้อากาศร้อน ขณะที่อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33.6 องศาเซลเซียส


เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองลำปาง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีชายวิ่งแก้ผ้าไปตามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-งาว และกำลังวิ่งหลบหนีเข้าไปในวัดป่ารวก อ.เมือง จ.ลำปาง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดหตุอยู่บริเวณในวัดป่ารวก พบกับ นายอาทิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 84 หมู่ 7 ต.เขวา อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม กล่าวว่า มารับจ้างทำงานอยู่ที่ ต.พิชัย เมืองลำปาง และวันนี้รู้สึกว่าอากาศร้อนอบอ้าวผิดปกติ อาบน้ำแล้วก็ไม่หาย จึงเดินแก้ผ้าวิ่งตามถนน เพื่อหวังจะรับลมมาตามถนนในตัวเมืองลำปาง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งไล่จับ จึงวิ่งเข้ามาหลบในวัดและถูกควบคุมตัวดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ขอผ้าจากพระสงฆ์ เพื่อนำมาให้ชายคนดังกล่าวสวมใส่ ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวน ที่ สภ.เมืองลำปาง ต่อไป ทั้งนี้ จากรายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง แจ้งว่า ช่วงบ่ายโมงวันนี้อุณหภูมิสูงสุดที่ลำปาง 33.6 องศาเซลเซียส

ที่มา: http://news.sanook.com/1678145



แอนดี ฮอลล์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติยื่นมือป้องแรงงานพม่าผู้ต้องสงสัยคดีเกาะเต่า

♠ Posted by Unknown in
นักสิทธิมนุษยชนอังกฤษส่ง “ทีมทนายความ” ป้องแรงงานพม่าผู้ต้องสงสัย “คดีเกาะเต่า”
เอเจนซีส์ - แอนดี ฮอลล์ นักสิทธิมนุษยชนชาวอังกฤษระบุว่า กำลังส่งคณะทนายความไปช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติชาวพม่าสองคนซึ่งถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า โดยหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิตถูกฆ่าข่มขืน     
       ความเคลื่อนไหวเช่นนี้มีขึ้นในช่วงที่เกิดกระแสวิตกกังวลว่า แรงงานชายที่ถูกจับกุมทั้งสองจะไม่ใช่ผู้ก่อเหตุตัวจริง 
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว
       แอนดี ฮอลล์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติในไทยระบุผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ (3 ต.ค.) ว่า กำลังส่งทีมทนายความไปพบแรงงานทั้งสองคนที่ถูกทางการไทยตั้งข้อหา “เรากำลังส่งทีมที่ปรึกษากฎหมาย และหาทางเข้าถึงตัวผู้ต้องสงสัย เพื่อให้คำแนะนำแก่พวกเขาในเรื่องสิทธิที่พวกเขาพึงมีตามกฎหมายไทย และจัดหาล่ามที่เชื่อถือได้”
       ฮอลล์ชี้ว่า เขาต้องการยื่นมือเข้าไปมีส่วนร่วมในคดีนี้ ภายหลังรับทราบรายงานที่ว่ามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น แม้ว่านักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนผู้นี้จะยอมรับว่า เขาไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าชายที่ถูกตั้งข้อหาทั้งสองคนถูกทำร้ายร่างกาย รวมทั้งไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผลตรวจดีเอ็นเอของตำรวจไม่ตรงตามความเป็นจริง     
       เมื่อวันเสาร์ (3) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจจับมานั้นไม่ได้เป็นแพะรับบาป โดยเขาเน้นย้ำว่าตำรวจมีหลักฐานแน่นหนามัดตัวชายชาวพม่าที่ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ฮานนาห์ วิเทอริดจ์ และเดวิด มิลเลอร์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สาเหตุที่พนักงานสอบสวนต้องใช้เวลานานกว่าจะจับตัวผู้ต้องสงสัยได้ ก็เพราะพวกเขาต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากคนจำนวนมาก และต้องตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 300 ตัวที่ติดตั้งรอบจุดเกิดเหตุบนเกาะเต่า
       ในเวลาเดียวกัน ชาวบ้านใน จ.สุราษฎร์ธานีกล่าวเมื่อวันเสาร์ (3) ว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มเดินทางกลับไปเที่ยวที่เกาะเต่าอีกครั้ง ภายหลังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ      
       ทวีศักดิ์ อินพรหม นายอำเภอเกาะพะงัน รับผิดชอบท้องที่เกาะเต่า กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวที่เกาะเต่าจะกลับมา “คึกคักอีกครั้ง” ภายหลังจากจับตัวผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ได้    
       เขากล่าวว่า “ตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มมีความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยบนเกาะนี้มากขึ้น และพวกเขาเชื่อมั่นการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่”      
       ทางด้าน นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีกล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องสงสัยช่วยทำให้นักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางไปเกาะเต่ากลับมามั่นใจในความปลอดภัยอีกครั้ง   
       ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบนโยบายการดูและความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องของการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ การติดตั้งกล้องวงจรปิด การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างในจุดเสี่ยง รวมทั้งการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ในการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ด้วย    
       เมื่อวันเสาร์ (3) ชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะเต่าได้แสดงความหวังว่า การจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมคดีนี้จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวกล้ากลับมาเที่ยวที่เกาะอีกครั้ง และช่วยปรับปรุงภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่นี่ 
ที่มา:manager


ตํารวจ"ตอบข้อสงสัยคดีฆ่าเกาะเต่า"

♠ Posted by Unknown in

ตำรวจตอบ 4 ข้อสงสัยคดีเกาะเต่า ยันไม่ได้จับแพะ

จากกรณีที่มีการจับกุมตัวแรงงานพม่าผู้ต้องสงสัยฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า โดย 2 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าจริง พร้อมเผยผลตรวจ DNA ของนายวิน และนายซอ ที่พบว่าตรงกับเชื้ออสุจิในช่องคลอดของนักท่องเที่ยวหญิงที่เสียชีวิต แต่ชาวสังคมออนไลน์บางส่วนกลับไม่เชื่อมั่นในการสืบคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีการจับแพะ

ล่าสุด วันที่ 5 ต.ค. เฟซบุ๊ก Thailand Police Story ได้มีการโพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยดังกล่าว โดยระบุว่า

"ตอบข้อสงสัยคดีฆ่าเกาะเต่า"1. ถาม : ตำรวจแถลงว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ถูกทุบทิ้งแล้วโยนไว้หลังบ้านพักชาวพม่า แต่ทำไมถึงมีรูปหลุดมาว่าโทรศัพท์ของนางสาวฮานน่าห์ยังอยู่บนโต๊ะรับแจ้งความ

ตอบ : มือถือที่ชาวพม่าขโมยไปแล้วทุบทิ้งเป็นของผู้ตายคือนายเดวิดครับ ไม่ใช่ของนางสาวฮานน่าห์

2. ถาม : ภาพนายเมาเสื้อขาวที่ออกสื่อมีทรงผมหยิก ๆ ฟู ๆ แต่ทำไมในกล้องวงจรปิด พบคนที่มีผมเรียบตรง เหมือนไม่ใช่นายเมา

ตอบ : ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันครับ ภาพการจับกุมนายเมา (วันที่ใส่เสื้อเหลือง) ก็มีผมเรียบตรงเหมือนกัน (ขึ้นอยู่กับการหวีผมในแต่ละวันครับ)

3. ถาม : ภาพศพของนายเดวิดมีรอยแตกปริเหมือนโดนมีด มากกว่าที่จะโดนจอบในการฆ่า

ตอบ : ผมมีภาพศพนางสาวฮานน่าห์ระยะใกล้ (จริง ๆ ไม่อยากลงเพราะศพมันเละมาก) หน้าผากถูกจอบกระทุ้งสับระหว่างนอน แผลจึงแตกเป็นรูกว้าง แต่นายเดวิดถูกเหลี่ยมจอบเหวี่ยงใส่หัวและใบหน้าระหว่างเดิน เหลี่ยมจอบทำให้เป็นรอยแตกปริ

4. คนต่างด้าวในเกาะเต่ามีที่ลงทะเบียนถูกต้อง 4,000 คน ยังไม่ลงทะเบียนอีก 3,000 คน ไม่สามารถตรวจให้ครบทุกคนได้ในช่วงแรก (รวมถึงคนร้าย) เมื่อได้พยานหลักฐานมากขึ้น จึงรู้ตัวอย่างเจาะจงและ DNA คนร้ายคือหลักฐานที่ศาลจะเป็นคนตัดสินเอง"
ที่มา:news.sanook


ฆ่าตัวตาย!เครียดราคายางตกต่ำ

♠ Posted by Unknown in
ฆ่าตัวตาย!เครียดราคายางตกต่ำ

หนุ่มชาวสวนเครียดหนัก ราคายางตกต่ำไร้คนเหลียวแล สุดท้ายทนไม่ไหวตัดสินใจฆ่าตัวตาย หยิบยาฆ่าหญ้าซดดับอนาถ


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 ต.ค. ร.ต.ท.วินิจ อินทร์คง ร้อยเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจาก รพ.ทุ่งสงว่า มีคนกินยาฆ่าตัวตายเข้ารับการรักษาที่ รพ.ทุ่งสง และเสียชีวิตลง ไปตรววจสอบพร้อม พ.ต.ท.สุรจิตร ตะกรุดเดิม รอง ผกก.สส. พบศพนายวินัย ดวงแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 7 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง บริเวณปากและลำคอมีรอยไห้มเกรียม เนื่องจากพิษของยาฆ่าหญ้าที่ผู้ตายดื่มเข้าไป และเพิ่งเสียชีวิต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ญาติช่วยกันนำส่งรพ.เพื่อให้แพทย์ล้างท้องช่วยชีวิต แต่เนื่องจากรับพิษเข้าไปปริมาณมากจนอวัยวะภายในถูกกัดกร่อนเสียหาย จึงเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายยังโสดไม่มีครอบครัว พักอาศัยอยู่เพียงลำพังคนเดียว และมีอาชีพทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมักบ่นให้ญาติฟังเสมอว่าเครียด เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำ ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่ายประกอบกับฝนตกทุกวันยางก็ไม่ได้กรีดทำให้ไม่มีรายได้ กระทั่งช่วงเย็นวานไม่พบผู้ตายออกจากบ้าน จึงเข้าไปดูพบว่า ผู้ตายพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยาฆ่าหญ้า จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล กระทั่งเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ฆ่าตัวตายอีกราย เวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.วินิจ อินทร์คง ร้อยเวร สภ.ทุ่งสง รับแจ้งมีผู้ผูกคอตาย ภายในบ้านเลขที่ 54 บ้านคลองวังหีบ หมู่ 1 ต.นาหลวงเสน จึงไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน และแพทย์รพ.ทุ่งสง ที่เกิดเหตุพบศพนาย สมนึก ส้มเขียวหวาน อายุ 51 ปี สภาพศพใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองแขวนกับกิ่งไม้ สภาพลิ้นจุก ตรวจสอบไม่พบร่องรอยและบาดแผลถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตประมาณ 5 ชั่วโมง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป เป็นญาติสนิทของนายตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งสงนายหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุได้หายออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด โดยญาติ ๆไม่ทราบว่าผู้ตายไปไหน กระทั่งใก้ลเที่ยงชาวบ้านที่ไปวางกับดักนกในป่าพบผู้ตายผูกคอตายกับต้นไม้ จึงแจ้งตำรวจทราบส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายน่าจะเกิดอาการเครียดเรื่องโรคประจำตัวที่รักษาไม่หาย และไม่อยากเป็นภาระให้สมาชิกในครอบครัวจึงคิดสั้นผูกคอตายดังกล่าว.
ทีมา : Dailynews


แห่ชื่นชมพนักงานสาวน้ำใจงาม

♠ Posted by Unknown in
แห่ชื่นชมพนักงานสาวน้ำใจงาม

ชาวเน็ตแห่ชื่นชม พนักงานสาวร้านสะดวกซื้อ ช่วยทำแผลให้ชายสติไม่สมประกอบ พร้อมเรียกร้องหน่วยงายดูแล กลุ่มคนเร่ร่อนในพื้นที่ชุมชนเมือง

ภาพจากคลิปyoutube

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอ การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ ตลาดหมอชิต กรุงเทพฯ โดยคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพจชื่อดัง YouLike คลิปเด็ด ความยาว 1.07 นาที เป็นภาพของหญิงสาว พนักงานร้านสะดวกซื้อ และเพื่อนกำลังช่วยปฐมพยาบาลให้กับชายไม่สมประกอบรายหนึ่งที่มีบาดแผลบริเวณข้อเท้าขวา ทั้งนี้ทางพนักงานสาว ได้พยายามสอบถามถึงที่มาที่ไปของบาดแผลผังกล่าวแล้ว แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ได้พูดตอบโต้อะไร ได้แต่สายหน้าไปมา

ภายหลังคลิปวีดีโอ ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้ผู้พบเห็นต่างชื่นชมในความมีน้ำใจของพนักงานร้านซะดวกซื้อเป็นจำนวนมาก พร้อมให้กำลังใจกับการทำความดีต่อไป อย่างไรมีความเห็นของหลายคนที่ระบุว่าอยากให้หน่วยงานของรัฐออกมาดูแลควบคุม คนสติไม่สมประกอบที่ที่ปะปนอยู่ในพื้นที่เมืองเพื่อป้องกันอันตรายจาก คนร้าย มิจฉาชีพ รวมทั้งเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ด้วย.

ทีมา : Dailynews



ว่อนเน็ต! แม่ดาราตลกชื่อดัง'โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม'ถูกทิ้งที่วัด

♠ Posted by Unknown in

แชร์ว่อน! ยายถูกทิ้งที่วัดดัง นอนป่วยแผลเหวอะ แม่ตลก โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม


(5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้แชร์ภาพและเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอความช่วยเหลือหญิงชราคนหนึ่ง ซึ่งประสบเหตุลื่นล้มและเป็นแผลไม่หาย เนื่องจากป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดัน อาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี อีกทั้งยังพบว่าหญิงชราคนนี้เป็นแม่ของดาราตลกมีชื่อเสียงคนหนึ่ง

ตามรายงานระบุว่า สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้แชร์ภาพและเรื่องราวของหญิงชราที่นอนป่วยอย่างน่าเวทนา อาศัยอยู่ที่วัดพระยาสุเรนทร์ โดยมีข้อความระบุไว้ว่า

"รบกวนขอความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ คุณยายอ้อย เป็นแม่ของตลกชื่อดัง โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม ปัจจุบันพำนักอยู่ที่วัดพระยาสุเรนทร์ อาศัยใบบุญและข้าวก้นบาตรพระประทังชีวิต หลังได้ออกจากบ้านคุณโป๊งเหน่ง มาอยู่ที่วัดเพราะมีปัญหากับทางลูกสะใภ้(อีกแล้ว) ยายก็มาอยู่ที่วัด แต่ล่าสุดได้รับอุบัติเหตุ ลื่นล้มหน้าห้องน้ำ ทำให้ต้องผ่าตัดบริเวณหัวเข่า (เดินไม่ได้) ประกอบกับอยู่ตัวคนเดียว ล้มป่วยโรคเบาหวานและความดัน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้นอนซมบนกองอุจจาระและปัสสาวะ มีมดมาไต่เกาะกินแผลยาย จนแผลลุกลาม เน่าอักเสบรุนแรง รวมถึงแผลกดทับ

ทางวัดให้หมอโทรไปแจ้งคุณโป๊งเหน่ง แต่ภรรยาเป็นคนรับสาย ออกแนวปฏิเสธและสวนกลับมาว่า ‘ต้องการเงินเท่าไหร่?' แต่ทางเราไม่ต้องการเช่นนั้น แค่ต้องการให้มาดูใจท่านหน่อย ยายอาการท่านแย่แล้ว จนบัดนี้ก็ไม่มีการได้รับความช่วยเหลือใดๆ มาจากครอบครัวคุณโป๊งเหน่ง มีเพียงชาวบ้านแถวนั้นที่เข้ามาดูแลวันละ 3-4 ครั้ง คอยเช็ดตัว ป้อนข้าว ทำแผล เก็บอุจจาระ-ปัสสาวะ ล่าสุดนำไปโพสต์ที่เพจคุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ หวังว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาให้ความช่วยเหลือทันท่วงที"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ส่งต่อออกไปเป็นวงกว้าง มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและเป็นกำลังใจให้คุณยายอ้อย พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานใดช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รวมทั้งเรียกร้องให้ โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม แวะไปเยี่ยมดูอาการคุณแม่บ้าง

สำหรับกรณีอื้อฉาวระหว่าง โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม กับ คุณแม่อ้อย ย้อนกลับไปเมื่อ พฤศจิกายน 2555 โลกออนไลน์ได้แชร์ภาพ คุณแม่อ้อย ที่หมดสิ้นหนทาง ต้องมาอาศัยวัดอยู่ ระบุว่าลูกชายกับลูกสะใภ้ไล่ออกจากบ้าน จนกระทั่งเรื่องราวบานใหญ่จนกลายเป็นประเด็นทางสังคม เนื่องจากต่างฝ่ายต่างให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ในท้ายที่สุด โป๊งเหน่ง ออกมาชี้แจงและกราบขอขมาแม่ต่อหน้าสื่อ เรื่องราวจบลงด้วยดี เมื่อ โป๊งเหน่ง รับคุณแม่กลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านเช่นเดิม
ที่มา:news.sanook

พลาด ประชดสามี ทำลูกหลุดมือจมลงคลอง

♠ Posted by Unknown in
เวทนา! เมียน้อยใจผัว อุ้มลูกลงคลอง หลุดมือจมน้ำดับ

(5 ต.ค.) เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ถนนรังสิต-นครนายก คลองสิบ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้งและนักประดาน้ำกู้ชีพ
บริเวณจุดเกิดพบชาวบ้านจับกลุ่มยืนดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนในลำคลองพบ นายจักรกฤษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) กำลังงมน้ำหาร่างเด็กทารกที่จมน้ำในคลอง ซึ่งในเวลาต่อมาพบว่าเป็นพ่อลูกกัน ขณะที่ใกล้เคียงพบ นางสาวรุ่งทิวา (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เป็นแม่ของเด็กกำลังนั่งร้องไห้สะอื้นอยู่ริมตลิ่ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พ่อของเด็กจึงงมพบศพลูกชาย จึงได้โอบกอดศพลูกอย่างน่าเวทนา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายจักรกฤษณ์ กับ นางสาวรุ่งทิวา ที่พักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ได้ทะเลาะมีปากเสียงกัน เป็นเหตุทำให้ นางสาวรุ่งทิวา อุ้มลูกชายตัวน้อย อายุเพียง 2 สัปดาห์ ออกมาจากบ้าน ก่อนจะเดินลุยลงคลอง เพื่อต้องการฆ่าตัวตายประชดสามี แต่ปรากฏว่าทำลูกชายหลุดมือ จมหาลงไปในคลอง จึงได้ตะโกนเรียกสามีให้มางมหาลูกชาย ท่ามกลางความตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น จนกระทั่งพ่อเด็กงมศพเจอดังกล่าว
ที่มา:news.sanook

โหด!ฆ่าเพื่อนดื่มเลือดแค้นติดพันแฟนสาว

♠ Posted by Unknown in

แทงดับ!ดื่มเลือดสยบวิญญาณ




วันอาทิตย์ 5 ตุลาคม 2557 เวลา 15:12 น.
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่สถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข พ.ต.อ.สาโรชซุ่นทรัพย์ รอง.ผบก.น.4 พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.กก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.สมพร กฤษณะพิพัฒน์ ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.สมปอง สำราญใจ รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอากี หล่า อายุ 30 ปีสัญชาติพม่า ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนงที่ ส.503/2557 ลงวันที่ 4 ต.ค.57 ข้อหาใช้อาวุธมีดแทงผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย พร้อมของกลางอาวุธมีด ไม้ตีพริก เสื้อผ้าที่ใช่ก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือ จับกุมได้ที่ห้องเช่าภายในซอยสำโรงเหนือซอย 5ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พ.ต.อ.สาโรช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ต.ค. เวลา 07.30 น พนักงานสอบสวนสน.อุดมสุข รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงนายไส ลิน อายุ 20 ปี สัญขาติพม่า นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง 3/2 ชั้น 3 ที่หมู่บ้านรุ่งอรุณ เลขที่ 40/253 ห้อง3/2 ชั้น 3 (ชุมชน 40 ไร่ ) แขวงประเวศเขตประเวศ กรุงเทพ ฯ จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งหาตัวคนร้าย จากการสอบถาม นายชวัลกรยา กลิ่นหอม ผู้ดูแลห้องเช่าให้การว่า ผู้ตายได้เข้ามาพักอาศัยในห้องดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับผู้ต้องหา โดยทั้งคู่มีอาชีพเป็นช่างทาสี ภายหลังเกิดเหตุนายอากีได้หายตัวไป

จากการสอบสวนนายอากี ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่านายไส เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายมาติดพันแฟนสาวของตนเอง โดยใช้ไม่ตีพริกทุบไปที่ศีรษะและคอของผู้ตายหลายครั้ง ก่อนจะแน่นิ่งไปแล้วจึงใช้มีดปลายแหลมแทงไปที่คอ และลำตัวอีกหลายแผลจนเสียชีวิต หลังเสร็จตนจึงเอาผ้าคลุมผู้ตายไว้ ก่อนจะใช้ชีวิตอยู่ในห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังใช้มีดที่แทงเพื่อนไปทำกับข้าว และนอนข้างผู้ตาย ทั้งยังมีการดื่มเลือดของเพื่อนตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ที่ต้องการสยบวิญญาณไม่ให้เพื่อนเข้าสิงร่างตนด้วย กระทั่งเวลาผ่านไปจน 05.30น. ของวันที่ 3 ต.ค. ตนเองจึงตื่นมาเก็บข้าวของ เพื่อหลบหนีคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
ที่มา:dailynews

แม่วอนผ่านสื่อ ช่วยตามหาลูกสาว หายตัวนาน 2 ปี

♠ Posted by Unknown in
แม่วอนผ่านสื่อ ช่วยตามหาลูกสาว หายตัวนาน 2 ปี


 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 ต.ค. นางบรรเจิด สิงห์สถิตย์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.1 บ.นาทอง ต.ปากมัน อ.ด่านซ้าย จ.เลย ร้องผ่านสื่อว่า ลูกสาวคนเดียว ได้หายออกจากบ้าน ไม่ติดต่อกลับมาเป็นเวลา 2 ปี แล้ว ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ พบนางบรรเจิด พร้อมกับญาติ

 นางบรรเจิด เล่าด้วยความเศร้าว่า ตนมีลูกคนเดียวเป็นผู้หญิงชื่อ น.ส.นวลฉวี แสนทวีสุข ปัจจุบันอายุ 22 ปี ส่วนสามีตนได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกสาวอายุได้ 4 ขวบ ตนก็อยู่กับลูกสาวเพียง 2 คน เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมาลูกสาวได้ขอไปทำงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดนนทบุรี และมีการติดต่อกลับมาบ้าน 2-3 ครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย ตนพร้อมด้วยญาติ ออกตามหาและสอบถามญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ของลูกสาว แต่ไม่มีใครทราบสักคน ที่ทำงานลูกสาวก็ไม่เคยบอก ไม่รู้ว่าลูกสาวเป็นตายร้ายดีอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า

 “จึงขอวิงวอนสื่อช่วยประกาศตามหาลูกสาวให้หน่อย ทุกวันนี้ตนเองอาศัยอยู่คนเดียว ยังเป็นโรคเบาหวาน สภาพร่างกายก็ไม่แข็งแรง อาศัยญาติพี่น้องคอยช่วยเหลือ ทุกวันทุกคืนนั่งคิดถึงแต่ลูกสาว กินไม่ได้นอนไม่หลับ ทุกวันนั่งภาวนาขอให้ลูกสาวกลับบ้าน อย่าได้มีอันตราย จึงขอวิงวอนสื่อช่วยประกาศตามหาลูกสาวด้วย ว่าแม่รออยู่”

 ส่วนนางคำจ่าน ศรีบุญ อายุ 57 ปี พี่สาวนางบรรเจิด เล่าว่า ตั้งแต่หลานสาวหายไป ก็พยายามติดต่อตามหาไปทั่ว แต่ก็ไม่พบ หลานสาวเป็นเด็กกำพร้าพ่อ ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แม่และบรรดาญาติตั้งหน้าตั้งตารอคอยลูกสาวกลับบ้าน จนสุขภาพย่ำแย่ อาการโรคเบาหวานก็กำเริบ อยู่คนเดียว ญาติๆ ต้องคอยมาช่วยเหลือและให้กำลังใจ จึงร้องผ่านสื่ออีกคน ช่วยตามหาหลานสาวกลับมาหาแม่ อยู่ที่ไหนก็ให้ติดต่อมาหาแม่และทุกคนรอการกลับมา ภาวนาขอให้ยังมีชีวิตอยู่
ทีมา : Khaosod


โจ๋ฉุนเก็บค่าจอดรถไม่ได้ คว้าไม้ฟาดฝรั่งแขนหัก

♠ Posted by Unknown in
โจ๋ฉุนเก็บค่าจอดรถไม่ได้ คว้าไม้ฟาดฝรั่งแขนหัก


(5 ต.ค.) เมื่อเวลา 02.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่บริเวณกลางซอยบัวขาว ตรงข้ามไดน่ารีสร์อต พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ เชฟโรเลต สีบรอนซ์ ทะเบียน กย 4043 ชลบุรี ได้รับความเสียหายถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณประตูรถด้านบนจนได้รับความเสียหาย

ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายทศพล ทับประสิทธิ์ อายุ 19 ปี ถูกชาวบ้านจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางเป็นท่อนไม้ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ Mr.John Hayward อายุ 70 ปี สัญชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายจากการถูกตีด้วยไม้จนแขนผิดรูป ยืนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล

จากการสอบสวน นายทศพล ให้การว่า ตนทำหน้าที่ดูแลค่าบริการที่จอดรถสำหรับผู้ที่จะนำรถเข้ามาจอดในสถานที่ซึ่งมีผู้ดูแลทราบชื่อเพียง อรัญ เป็นคนจ้างตน โดยจะเก็บค่าจอดครั้งละ 40 บาทต่อวัน ก่อนเกิดเหตุชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้นำรถมาจอด ตนจึงได้เดินเข้าไปเก็บค่าบริการที่จอดรถ แต่ชาวต่างชาติคนนี้ไม่ยอมจ่ายให้ อีกทั้งได้พยายามถอยรถออกไป ตนจึงได้เดินไล่ตามเคาะรถ แต่ก็ไม่ยอมหยุดรถด้วยความโมโหจึงกระโดดถีบที่ประตู ก่อนคว้าไม้ฟาดไปที่รถและตีไปที่แขนของชาวต่างชาติอย่างแรง หลังจากก่อเหตุได้พยายามขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีแต่ถูกชาวบ้านไล่จับได้

จากการสอบถามพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บได้นำรถจอดที่บริเวณถนนเพื่อเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อเยื้องที่เกิดเหตุ หลังจากที่ผู้บาดเจ็บกลับมาที่รถ ผู้ก่อเหตุได้เข้าไปเรียกค่าจอดรถกับผู้บาดเจ็บ แต่ผู้บาดเจ็บไม่ให้ เพราะไม่ได้นำรถเข้าไปจอดในสถานที่ดังกล่าว จนเกิดการทำร้ายนักท่องเที่ยวด้วยการตีด้วยไม้จนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้ควบคุมตัวนายทศพล ทับประสิทธิ์ ไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา
ทีมา : Sanook



ชาวไทยลงนามถวายพระพรคึกคัก

♠ Posted by Unknown in
ชาวไทยลงนามถวายพระพรคึกคัก

พสกนิกรเดินทางมาลงนามถวายพระพรกันเป็นจำนวนมาก ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้พระองค์มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยสืบไป


ภายหลังสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาศิริราช 100 ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.00-18.00 น.บรรยากาศในช่วงเช้ามีข้าราชการ องค์กรหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมด้วยประชาชนเดินทางมาลงนามฯ พร้อมนำพานดอกไม้และพวงมาลัยมาถวายกันเป็นจำนวนมาก อาทิ ศ.นพ.รัชตะรัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนที่ทราบข่าวจากคำแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังเมื่อวานนี้บางคนถึงกับนอนไม่หลับ อยากเดินทางมาที่ รพ.ศิริราช โดยทันทีเพื่อติดตามพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดตั้งแต่เช้าตรู่ พร้อมนำอาหาร ข้าวกล่องติดตัวมาเพื่อที่จะรอฟังข่าวคราวความคืบหน้าของพระอาการตลอดทั้งวัน

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน กล่าวว่า ในนามของกระทรวงสาธารณสุขและประชาชนชาวไทยคนหนึ่งที่มีความห่วงใยพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงพร้อมใจกันมาร่วมลงนามถวายพระพร ทั้งรมช.สาธารณสุขอธิบดีกรมสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง โดยขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์โดยเร็ว

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะประธานสนช. ได้รับทราบข่าวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯมารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช ก็รู้สึกเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยที่มีความเป็นห่วงพระพลานามัยขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้พระองค์มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและอยู่เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยสืบไป

ด้าน ร.ต.หญิงจินดา คำพูล อดีตข้าราชการทหาร อายุ 78 ปี เผยว่า ได้ทราบข่าวจากโทรทัศน์และข้อความจากโทรศัพท์มือถือวันนี้ออกจากบ้านมาตั้งแต่ตอนเช้าโดยเดินทางมาโดยรถเมล์จากบางพลัด และจะนั่งรอที่ รพ.ศิริราช ตลอดทั้งวัน โดยนั่งรอที่ลานศาลานุสารีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพราะจะได้เห็นห้องประทับของพระองค์ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ เพียงเท่านี้ก็ก็เหมือนได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่าน และได้ขอพรให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรง อยากเห็นพระองค์ท่านเดินได้สะดวกเหมือนเดิม.


ทีมา : Dailynews


สลด! เมียประชดผัว อุ้มลูกวัย 7 วัน เดินลุยคลอง เด็กพลัดหลุดมือจมน้ำดับอนาถ

♠ Posted by Unknown in
สลด! เมียประชดผัว อุ้มลูกวัย 7 วัน เดินลุยคลอง เด็กพลัดหลุดมือจมน้ำดับอนาถ


  เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ต.ค. พ.ต.ท.มนัส กันเทียะ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตภายในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ หน้าหมู่บ้านเอื้ออาทรคลองสิบ ถนนรังสิต นครนายกขาเข้ารังสิต จึงประสานกู้ชีพสนั่นรักษ์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้งไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุริมคลองรังสิตพบชาวบ้านกำลังมุงดูกันจำนวนมาก โดยมีนายจักรกฤษณ์ กระแจะจันทร์ กำลังลงไปงมหาศพเด็กอยู่ โดยมีน.ส.รุ่งทิวา ยิ่งสวัสดิ์ แม่เด็กนั่งร้องให้อยู่ริมคลอง และแจ้งว่าเด็กที่จมน้ำเสียชีวิตเป็นลูกชายตนชื่อ ด.ช.จอมพล กระแจะจันทร์ อายุ 7 วัน และนายจักรกฤษณ์ กระแจะจันทร์ พ่อเด็กได้ลงไปงมหาเด็กกว่า 20 นาที โดยพบเด็ก และนำขึ้นมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

จากการสอบสวนทราบว่า นายจักรกฤษณ์ และน.ส.รุ่งทิวา มีปากเสียงกัน ทำให้น.ส.รุ่งทิวา อุ้มลูกชายวัย 7 วัน ประชดสามีเดินลุยคลองจะฆ่าตัวตาย แต่ลูกชายเกิดพลัดหลุดมือจมน้ำหายไป จึงร้องเรียกสามีให้มาช่วยงมหาลูกชาย จนพบเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นำศพเด็กส่ง ร.พ.ธัญบุรี ตรวจสอบต่อไป
ทีมา : Khaosod


เว็บขายชุดนักศึกษาไทย ใส่เล่นคอสเพลย์ ชาวเน็ตจวกยับ

♠ Posted by Unknown in
เว็บขายชุดนักศึกษาไทย ใส่เล่นคอสเพลย์ ชาวเน็ตจวกยับ


เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 57 ได้เกิดกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับชุดนักศึกษาในสังคมไทยขึ้นอีกครั้ง หลังชาวเน็ตไทยรายหนึ่งได้พบกับเว็บขายชุดนักศึกษาไทยโดยคาดว่าเป็นเว็บไซต์ชาวญี่ปุ่นที่เปิดขายชุดนักศึกษาสาวไทยพร้อมเข็มกลัดมหาวิทยาลัยชื่อดังของไทย ให้ลูกค้าที่ชื่นชอบการแต่งชุดคอสเพลย์ได้ซื้อไปใส่เล่นกัน

       ทั้งนี้ หลังเรื่องเว็บขายชุดนักศึกษาไทย เป็นที่วิจารณ์บนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตไทยที่ทราบเรื่องได้อออกมาวิจารณ์อย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งรู้สึกเศร้าใจที่เครื่องแบบนักศึกษาไทยและเข็มกลัดมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติถูกวางจำหน่ายเป็นสินค้าเพื่อสนองความต้องการของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่รู้คุณค่าและความหมายของชุดนักศึกษาไทย

ขอขอบคุณภาพจาก rakuten
ทีมา : Boxza



จีบสาวสวย "ถ้าไม่รวย" เริ่มต้นจากตรงไหน?

♠ Posted by Unknown in
จีบสาวสวย "ถ้าไม่รวย" เริ่มต้นจากตรงไหน?


ถ้าหนุ่มๆ คิดจะจีบสาวสวยไปจนถึงขั้นสวยมาก ขนาดที่ว่าเธอมีตัวเลือกมาก และมีสิทธิ์ที่จะเลือก ต้องเริ่มต้นอย่างไรเธอถึงจะสนใจคุณ...


ถ้าเข้าหาแบบเพื่อน คุณจะเป็นได้แค่คนรู้จัก

คุณไม่มีอะไรต้องเสีย การไม่ได้จีบต่างหากเสียหายกว่าการสงวนท่าทีเป็นสิบเท่า ดังนั้นจงก้าวเท้าไปหาเธอซะ ยิ่งถ้าคุณไม่ใช่หนุ่มหล่อประเภทที่เธออยากได้มาเป็นแฟน ถึงเธอจะมีสิทธิ์เลือก หรือเข้าขั้นเรื่องมาก แต่ถ้าคุณเข้าหาอย่างชาญฉลาด ด้วยวิธีการเน้นเสียงหัวเราะ บุคลิกแบบนี้จะค่อยๆ ทำลายกำแพงนิสัยลงได้ เพียงแต่อย่าเล่นมากไปเหมือนคนที่ไม่จริงจังจริงใจ ก่อนอื่นคุณต้องชัดเจนในบุคคลเป้าหมาย ขั้นแรกขอให้คุณฝึกการโน้วน้าว ทำนองพูดอะไรแล้วมีคนฟัง ดังนั้นคุณต้องมีลักษณะของคนที่โน้มน้าวได้เก่ง  ย้ำอีกครั้งว่าโน้มน้าวได้เก่ง ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องร่ำเรียนเก่ง เพียงแต่ต้องฝึกและพกความมั่นใจติดตัวเอาไว้เสมอ เสมือนว่าตัวคุณเองก็มีดี (จะทำให้เธอสงสัยว่าทำไมคุณถึงมั่นใจในตัวเองได้ขนาดนี้!) มั่นใจไม่ใช่กร่าง หรือขี้อวด นั่นเป็นคนละแบบ และอย่าเข้าหาเหมือนเพื่อน จงยิ้มให้เธอรับรู้ ถึงเธอจะไม่ยิ้มกลับมาหรือว่าแสยะใส่ก็จงอย่าได้เหวอ เพราะเธอคือสาวสวยระดับเดือน จงเตือนตัวเองเอาไว้

ถ้าเจอต้องทัก ถ้าจากต้องลา

อย่าคิดว่าเราอยู่เฉยๆ แล้วเธอจะมาหา เพราะคุณไม่ใช่นายแบบหรือดาราชื่อดัง เธอเป็นอะไรจงจำไว้ให้ดี เธออาจชาชินกับผู้ชายที่อวดรวยมามาก หรือเอาสินทรัพย์มรดกเข้าข่ม สักพักเธอจะเริ่มมองหาผู้ชายที่ดีกว่านั้น(แต่ถ้าเธอยังไม่หลุดจากวงโคจรนี้ ก็คิดว่าคุณคงเข้าใจ) เธอจะระมัดระวังตัวอยู่แล้ว และมีเกราะกำบังที่หนาเป็นชั้นๆ นั่นอยู่เป็นทุน หากเดินสวนกันต้องชิงทักก่อน หรือหากรู้จักกันแล้ว ทักไปเลยไม่ต้องกลัว กฎมีอยู่ว่าถ้าทักไปแล้วก็จะได้ทักทุกครั้ง แต่ถ้าได้เดินด้วยกันก็จงอย่าหยุดคุย แต่ถ้าเธอรู้สึกอึดอัด คุณต้องรีบตีจากเหมือนติดธุระไปในทันที รอโอกาสที่เหมาะสมกว่านี้ เหมือนการหยอดกระปุกสะสมโอกาสไปทีละเล็กละน้อย

  ความพยายามซ้ำๆ ซากๆ

เธอชอบอะไรก็จงจำไว้ให้ดีๆ หรือจะมีสิ่งที่เกลียดก็ด้วย คุณจะตอบสนองเธอได้ตรงจุดมากขึ้น จุดอ่อนของสาวประเภทนี้คือมีคนเอาใจค่อนข้างมาก เธออาจจะขี้วีนขี้เหวี่ยงจนติดเป็นนิสัย เผลอๆ จะติดใจในความสบายที่ชายผู้ร่ำรวยประทานมาให้เธอเสมอๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือแสดงออกถึงความพยายาม แม้เธอจะเข้าข่ายหลอกใช้คุณก็ต้องเสี่ยง เพราะถ้าคุณไม่ลงทุนอะไรเลย คุณจะเป็นนักเล่นหุ้นไม่ได้  แล้วยิ่งถ้าหุ้นมีความผันผวนอยู่ตลอด ต้องเป็นตัวคุณเองนั่นแหละที่ต้องมั่นคงและเข้มแข็งไม่หวั่นไหว จงทำให้เธอรู้สึกว่าคุณไม่ใช่คนฉาบฉวยเหมือนที่เธอเคยพบเจอมา คุณสามารถรองรับอารมณ์ต่างๆ นานาของเธอได้อย่างซ้ำๆ ซากๆ และมีความอดทนที่เหนือกว่าผู้ชายคนอื่นๆ "จงอยู่เป็นคนให้เธอได้เห็นหน้าเป็นคนสุดท้าย และทักทายเธอก่อนเป็นคนแรก" ทำตัวเองให้เป็นธรรมชาติเหมือนกับว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะอยู่รอพบ สบโอกาสก็ช่วยแก้ปัญหาให้เธอได้อยู่ตลอด คุณก็จะเริ่มมีตัวตนสำหรับเธอขึ้นมาแล้ว

  รู้จักสร้างโอกาสด้วยตนเองสำคัญที่สุด

แน่นอนที่สุดว่า ทฤษฎีข้อ 1 ถึง 3 นั้นหนุ่มๆ ทุกคนคงทำได้อยู่แล้ว แต่ทฤษฎีข้อนี้สำคัญที่สุด ใครชิงทำได้ก่อน โอกาสที่คนสวยๆ มาเดินเคียงข้างก็จะมากกว่าคนอื่นเขา ร้อยละ 70 ของผู้สำรวจที่จีบติดมาถึงขั้นนี้ บางทีโอกาสก็ไม่เกิดขึ้นเอง แต่บ่อยครั้งเราต้องเป็นคนสร้างโอกาสนั้นขึ้นมา เช่น หากจะโทรไปคุยเฉยๆ ต้องมีเรื่องงาน(หรือเรื่องเรียน)นำหน้าเป็นการเปิดประเด็น แต่หลังจากนั้นคุณก็สามารถโทรไปคุย ไปปรึกษาเธอได้แต่อย่าโทรบ่อย แค่อาทิตย์ละครั้ง สองอาทิตย์ครั้ง แต่ละครั้งสั้นยาวไม่เท่ากัน แต่เน้นที่สั้นๆ ไว้ก่อน หรือถ้าเธอบ่นหิวข้าว ก็ต้องชวนแบบเผื่อใจ  "ไปกินกับเราได้นะ เราไม่ถือ เลือกร้านไหนก็บอกมาได้เลย" อารมณ์ขัน แสดงความสนใจ และเผื่อทางเลือกรอไว้ให้เธอ จากนั้นจงปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง อย่าคะยั้นคะยอ เธอจะรู้สึกถึงความมีอิสระ ถ้ามีข่าวร้ายว่าเธอทำท่าจะปฏิเสธคุณไปในวันนี้ การทำตัวเองให้เป็น "ผู้ชายที่ดี" เกินมาตรฐานเฉลี่ย ก็เท่ากับเป็นการสร้างโอกาสให้ตัวคุณเองในวันข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว...

รูปประกอบจาก : อินเทอร์เน็ต

 ซ้ำขออภัยค่ะ

ที่มา: http://www.fhm.in.th/SECTION-SEX--amp--LOVE/DATING/GET-A-GIRL/if-not-rich-will-start-diminishes-the-pretty/
http://board.postjung.com/812694.html



คลิป สะท้านอันลือลั่นประจำวันนี้ - ทหารยึดบ้านตากอากาศหรู นักการเมืองท้องถิ่นรุกที่ดินป่าสงวน ไล่ซักถามละเอียดยิบ

♠ Posted by Unknown in
คลิป สะท้านอันลือลั่นประจำวันนี้ - ทหารยึดบ้านตากอากาศหรู นักการเมืองท้องถิ่นรุกที่ดินป่าสงวน ไล่ซักถามละเอียดยิบ
ภาพจากคลิปpostjung

เมื่อวันที่ 2 ตค.57 - จนท.ทหารนำโดย พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานฝ่ายกฎหมายกองทัพภาคที่ 2 เข้ายึดบ้านนักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการใน อ.นาแห้ว จ.เลย
.
พ.อ.สมหมายฯ พร้อมด้วยนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจ.เลย นำกำลังจนท.ทหาร, ตำรวจ, อส. และจนท.ป่าไม้กว่า 100 นาย เข้าตรวจยึดบ้านพักตากอากาศของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย (สจ.) รายหนึ่ง ซึ่งได้ปลูกสร้างอยู่บนภูเขาเขตพื้นที่ป่าสงวนป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน
.
ท้ั้งนี้พ.อ.สมหมายได้กล่าวตำหนิการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ ผู้บริหารเทศบาลตำบลนาแห้ว ว่า ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลเข้ามาบุกรุกป่าสงวนฯ ปลูกสร้างบ้าน ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเพียง 1 กิโลเมตร โดยพร้อมจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย!!
ชมคลิป
ที่มา: https://www.facebook.com/video.php?v=647101392070001&set=vb.100003104390618&type=2&theater http://board.postjung.com/812664.html